ส่งต่อรักแบบแม่ EP.03 คุณแม่เดย์ ฟรีแมน (อารยาอิสรีย์ เอกอุชุกร)
ส่งต่อรักแบบแม่ EP.03 คุณแม่เดย์ ฟรีแมน (อารยาอิสรีย์ เอกอุชุกร)
คุณแม่เดย์: ทุกคนมีหน้าที่ หน้าที่แต่ละคนก็ไม่เหมือนกันและจะทำหน้าที่ตรงนั้นได้มากน้อยแค่ไหน แต่ถ้าเกิดไม่ได้มันไม่ใช่เรื่องผิดเลย เพราะว่าทุกคนนิ้วเราก็ยังเกิดมายังไม่เท่ากันแต่ก็ยังสามารถมอบหน้าที่ยอมรับให้คนที่เขาทำหน้าที่ได้ดีกว่า คนที่ฐานะดีในยุคเก่า ๆ เขายังต้องมีแม่เลย เพราะแม่นมถูกคัดเลือกมาแล้วเพื่อให้ดูแล มันไม่ใช่เรื่องผิดธรรมชาติแต่มันเป็นเรื่องที่ทุกคนเกิดมามีหน้าที่ต่างกัน ทุกหน้าที่สำคัญหมด อย่าไปดูถูกว่าใครเก่งกว่ากัน
ยิ่งส่งอ่ำไปโรงเรียนที่นั่น เวลาไปประชุมผู้ปกครอง ดร.อาจอง เขาได้คุยให้เราฟังมันยิ่งเสริมพลัง เสริมความรู้ ว่าเรามาถูกทางแล้ว เราคิดไม่ผิดแล้วละที่เราทำอย่างนี้
เราโชคดี เรามีความสุข เพราะว่าเราทำในสิ่งที่อยากทำในเรื่องงาน ฉันอยากเป็นนักแสดงและในตอนนั้นนักแสดงบทบาทกะเทยยังไม่มี มีก็นิด ๆ โผล่มาในตอน แต่มันไม่ใช่เราไง เราไม่ได้พรีเซนต์อย่างนั้นตลอดเวลา มันไม่ใช่ แต่พอมาเจอเวทีนางโชว์ มันใช่เรา ได้ครีเอทการแต่งหน้า การทำผม การออกแบบเสื้อผ้า การใช้แสงไฟ mood & tone ในการจัดแสดง เรากำกับเอง เราเลือกเอง
ไม่ต้องถูกคนอื่นเลือกว่าเป็นกะเทยแล้วต้องกรี๊ดอย่างเดียว เป็นกะเทยเห็นผู้ชายแล้วต้องน้ำลายไหลอย่างเดียว กะเทยต้องบ้าบอ ต้องติดยา กะเทยต้องค้าประเวณี ไม่ใช่ เพราะฉะนั้น ฉันเป็นกะเทยที่ใส่ขนเฟอร์แล้วกรีดกรายสวยงาม นั่นคือสิ่งที่ฉันกำหนดได้ที่เราเลือกเอง มันจึงทำให้เรามีความสุข...แต่นั่นแค่การแสดง
ย้อนกับมาที่ชีวิตจริงที่ว่า พอเราเป็นแม่แล้วมีความสุขไหมที่ได้อุ้มลูก ลูกไม่ได้โชคดีนะแต่เดย์สิโชคดีที่มีเขา เราได้ทำหน้าที่เพราะลูกยอมรับเรา ลองถ้าวันหนึ่งลูกบอกว่าไม่เอาแม่แล้ว อาย แม่ทำตัวไม่ดี นั่นแหละเราจะรู้สึกตัวแล้วว่ามันไม่ใช่ มันอยู่ที่ตัวเขาไม่ใช่ตัวเรา
Host: เคยคิดไปข้างหน้าไหมคะถ้าวันหนึ่งเกิดพี่เดย์ต้องจากเขาไป
คุณแม่เดย์: เดย์คิดไว้แล้วคุยกับเขาตลอดตั้งแต่ที่เขาจำความได้เลย บอกเขาว่าถ้าวันไหนแม่ไม่อยู่แล้ว แล้วเขาจะพูดว่า อ่ำไม่อยากฟัง แต่ตอนนี้พอเขาเริ่มโตพอที่จะรับรู้ได้ เราก็อธิบายว่า “ที่แม่ทำทุกอย่าง แม่อาจจะไม่ได้สร้างฐานะ สร้างฐานสมบัติหรืออะไรให้หนูอยู่ได้นะ แต่สิ่งที่แม่สร้างก็คือการสอนที่จะให้หนูอยู่ได้ยังไงโดยที่ไม่ขาดคนรัก”
หนูจะต้องอยู่แบบที่ไม่ใช่อยากจะรักใครแต่หนูต้องอยู่แบบที่มีคนที่รักหนู แม่ไม่ใช่คนเดียวที่รักหนู หนูจะต้องทำตัวเป็นที่รักอย่างนี้กับคนอื่นด้วย เพื่อเขาจะได้รักหนูแบบที่แม่รักหนูไง เราสอนเขาอย่างนี้ เพราะฉะนั้น เราต้องเตรียมการเอาไว้
วันนี้เดย์ถือว่าได้ทำหน้าที่เพียงพอแล้ว เขารู้เรื่องแล้วบอกเขาว่า ตรงนี้ทำไว้ให้อย่างนี้ ทำอะไรไว้ให้บ้าง ถ้าวันหนึ่งแม่เป็นอะไรไปก่อนหนูยังเรียนไม่จบ บ้านคอนโดหนูจะขายได้ต่อเมื่อหนูบรรลุนิติภาวะ หนูเรียนจบแล้ว ถ้าหนูไม่จบถึงจะบรรลุนิติภาวะแล้วก็ไม่มีสิทธิขายบ้านหลังนี้ หนูเรียบจบแล้วบรรลุนิติภาวะแล้วอยากจะขายบ้านหลังนี้ไปซื้อบ้านใหม่นั่นเป็นสิทธิของหนู เพราะถ้าไม่มีบ้านตอนนี้ทุกวันนี้จะอยู่ยังไง ก็อย่างที่เคยบอกเขาไปว่าเราโชคดีที่ยังมีบ้าน เราเจอร้อนเจอฝนก็เข้าบ้านเราปลอดภัยที่สุด นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุดแม่ไม่อยากให้หนูขาดตรงนี้
แต่เมื่อหนูโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว เรียนจบแล้ว แม่ไม่ห่วงหนู หนูจะต้องทำงานหากินด้วยตนเอง หนูอยากมีบ้านหลังใหม่หรืออะไรที่หนูชอบมากกว่านี้หนูขายตรงนี้ได้ เดย์ยอมเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ให้เป็นนามสกุลเดียวกับเขาเพื่อที่ใครญาติคนอื่น ๆ จะไม่สามารถมาแย่งตรงนี้เขาไปได้ วางไว้ให้เขาหมดทุกอย่าง
ถ้าหนูเรียนโรงเรียนนี้ คุณครูดูแลหนูแน่ แต่ค่าเทอมค่าอื่น ๆ ก็เอาของกระจุกกระจิกของแม่ไปขายจนกว่าจะเรียนจบ แต่บ้านห้ามขายเด็ดขาดเพราะมันเป็นสิ่งที่ในอนาคตเราจะมีปัญญาซื้อได้อีกไหม
Host: แล้วถ้ากลับกันถ้าเขาไปก่อนละคะ พี่เดย์เคยคิดไหมคะว่าจะทำยังไง
คุณแม่เดย์: คิด คิดหมด เราคาดหวังอะไรกับเขาไหม ไม่ ก็แค่นั้น ปกติก็คุยกับเขานะ ดูข่าวทุกวันเกิดอุบัติเหตุเกิดอะไรที่มันเป็นเหตุสุดวิสัย แต่ถ้าเกิดอยู่ดี ๆ เดินไปเรียนแล้วคนนี้เข้าใจผิดเกิดมายิงเขาตายอะไรแบบนี้ แม่ก็คงจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ยุติธรรมที่สุดไม่ให้เป็นอย่างข่าวที่เราเห็น ๆ คือใครทำอะไรหนู แม่ก็ไม่ยอม ถึงมีธรรมะแต่ก็ไม่ได้สำเร็จอรหันต์นะ แม่ก็ต้องเอาคืนเต็มที่
Host: ตัวน้องอ่ำเคยทำอะไรให้พี่เดย์รู้สึกภูมิใจ ประทับใจบ้างไหมคะ
คุณแม่เดย์: หลากหลายเรื่องค่ะ อย่างที่บอกไปแค่เขาพิมพ์ข้อความมาบอกมาคุย แค่นั้นกับเด็กในวัยนั้นอะไรในความคิดของเขามันก็สุดแล้ว แล้วก็ตอนป.2-ป.3 อยู่ดี ๆ เขาก็ไปสมัครบวชให้ในหลวงเอง บวชที่วัดพระรามเก้า เขาไปสมัครกับคุณครู แล้วครูโทรมาปรึกษา ตอนแรกเราก็ตกใจคิดว่าลูกไปทำอะไร ครูบอกแต่มันเป็นเรื่องดีนะคะ น้องไปสมัครบวชให้ในหลวงรัชกาลที่ 9 เราก็อุ้ยดีค่ะ เราก็อนุญาตไป เพราะปกติพ่อแม่ต้องพาลูกไปแต่นี่ลูกเราไปเอง นั่นคือสิ่งหนึ่งที่อย่างน้อยในความเป็นเด็กของเขา ความนึกคิดของเขากับสิ่งที่เราได้พูดให้เขาฟัง ทำให้เขาได้เห็นได้เรียนรู้ มันรู้สึกอื้มเขาก็ใฝ่ดีแหละ
อีกเรื่องคือ ตอนที่เขาเข้าโรงเรียนนี้แหละ (โรงเรียนสัตยาไส) ก็ต้องสแกนนิ้วมือเพื่อจะดูว่าเด็กคนนี้มีทักษะพิเศษด้านไหน ของเขาเรารู้เลยว่าไม่ต้องไปผลักเรื่องวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์อะไรหรอกเพราะหัวเขาไม่ไปทางนั้น แต่เขาจะเป็นเลิศในด้านประสาทสัมผัส เราก็มานั่งคิดว่าอะไรนะ กีฬาหรือก็ได้นะ เอ๊ะหรือว่าดนตรีก็ใช้ประสาทสัมผัส ก็ถามเขาไอ้นั่นก็ไม่ชอบไอ้นี่ก็ยังไม่ชอบ เพราะเขาคงยังเด็กอยู่
แล้ววันหนึ่งเขามาบอกกับเราเองซึ่งมันก็ใช่จริงเป็นประสาทสัมผัส คือ...เขาอยากเป็นเชฟ เราก็คิดแบบดีใจเราไม่ต้องห่วงเขาแล้ว เราก็มีเพื่อนที่เป็นเชฟนะ เราก็ส่งเขาไปฝึกไปเล่นดูทำข้าวผัดเป็น ผัดไทยได้ ตำน้ำพริกเป็น ฉันไม่ห่วงแล้ว ตอนนี้เขาช่วยเหลือตัวเองได้ เขาหุงข้าวกินเองเป็น อยู่โรงเรียนเขาปรุงอาหารให้เพื่อนกินได้ ปรุงรสให้เพื่อน อันนี้ไม่อร่อยเติมน้ำปลาหน่อยอะไรอย่างนี้ เขาดูจากที่เราทำ
เขาก็มาคุยให้เราฟัง นั่นแหละคือสิ่งหนึ่งที่จะทำให้หนูอยู่ในสังคมได้นะลูก หนูต้องมีอะไรสักอย่างที่พิเศษกว่าคนอื่นที่เป็นตัวหนูที่เขายอมรับ หนูทำกับข้าวเก่ง ไปที่ไหนหนูก็ไม่อดตาย เรามีเพื่อนคนโน้นคนนี้ทำโน่นเก่งนี่เก่ง เราก็ฝากให้เขาไปฝึกหน่อยนะอะไรอย่างนี้ เขาก็จะชอบ แต่ในขณะที่ถ้าจะให้ไปเล่นดนตรีไม่เอา เล่นกีฬาก็ได้แต่ถ้าแข่งจริง ๆ จัง ๆ ไม่เอา ยิ่งการแสดงไม่ต้องเลยนะ แต่บางทีเขาก็ชวนแม่เล่น tiktok นะ เป็นคนสอนแม่ด้วยนะ
Host: เห็นความน่ารักของครอบครัวพี่นะ ที่พี่เล่าให้ฟังวันนี้ที่มาลูกเลือกชุดให้ด้วย
คุณแม่เดย์: เขาบอกเองว่าชุดที่แม่ใส่ตอนแรกช่วงนี้แม่อ้วนเหมือนแม่ใส่ห่วงยางเลย เอาชุดนี้ดีกว่า
Host: ดูเขาใส่ใจห่วงใยพี่เดย์มากเลยนะคะ
คุณแม่เดย์: เดย์สะดุดอะไรร้องโอ๊ยนิดนึงนะ เขาจะวิ่งมาดู กุลีกุจอมาดู มาถามว่าแม่เป็นอะไรหรือเปล่า ใจเรายังคิดเลยว่ายังไม่เป็นอะไรหรอก ไม่ได้แก่ขนาดนั้น (หัวเราะ) เขาก็จะเป็นห่วง บางทีเรานอนหลับก่อน เขาก็จะคอยดูเหมือนแม่นอนกรนแล้วแม่ไม่หายใจอะไรอย่างนี้ เขาก็คงอ่านอะไรมามากแล้วกังวลแหละ แต่เขาก็จะคอยดู เราก็บอกว่า แม่ก็เป็นอย่างนี้มาตั้งนานแล้วไม่เป็นอะไรง่าย ๆ หรอก แม่ยังแข็งแรงอยู่
Host: พี่เดย์มีอะไรอยากจะอวยพรให้เขาไหมคะ
คุณแม่เดย์: อย่างที่บอกค่ะ มันอยู่ที่ตัวเขาทำเอง สอนเขาไปทุกอย่าง มันตรงกับที่บอกว่าใครจะมาดูถูกเรา มา bully เขาทำอะไรไม่ได้มันอยู่ที่ตัวเรา ถึงใครจะมาอวยพรอะไรให้เรามันก็จะไม่ดีขึ้นถ้าเราไม่ทำตัวให้ดีเอง นอนอยู่เฉย ๆ ใครเขามาอวยพรให้ถูกรางวัลที่ 1 แต่ถ้าเราไม่ซื้อลอตเตอรี่มันก็ไม่ได้ ซึ่งก็สอนเขาไปประมาณนี้
เพราะฉะนั้น การอวยพรเป็นกำลังใจให้เรา แต่ถ้าใครมา bully มาต่อว่าหรืออะไรก็แล้วแต่ เราต้องย้อนดูตัวเราก่อนว่าทำอย่างที่เขาว่าหรือเปล่า ถ้าเราทำอย่างที่เขาว่า จนเขามาต่อว่าได้ เราก็ต้องรีบแก้ไข อย่าให้เขามาว่าเราได้ แต่ถ้าเขามาว่าเราโดยที่เราไม่ใช่แบบนั้น มันไม่ใช่ธุระของเรา เป็นธุระของเขา แล้วเราก็ต้องทำตัวเองให้ดีที่สุด เราอยากได้อะไรก็ต้องทำตัวของเราเอง
Host: ค่ะ นี่เป็นวิธีคิดที่อยู่ในตัวน้องแล้วละเพราะพี่ดูแลเขามาเยอะ ในฐานะที่เป็นแม่ เวลาแม่อวยพรลูกมันศักดิ์สิทธิ์มากเลยนะ
คุณแม่เดย์: ใช่ บ้านคนอื่นเดย์ไม่รู้นะ แต่สำหรับอ่ำ เดย์ไม่เคยใช้คำหยาบกับเขาแม้สักครั้งเดียว ไม่เคยด่าเลยสักครั้งเดียว มีแต่ดุ ดุมาก ๆ ด้วย ตีเป็นตีนะสมัยก่อน แต่แช่งชักหักกระดูกไม่เคยเลย เราจะชื่นชมเขาทั้งต่อหน้าและลับหลัง เขาก็รู้ แต่เราจะไม่อวยนะ ถ้าดีก็บอกอันนี้ดีลูก ถ้าไม่ดีก็บอกอันนี้ไม่ดีนะ เราจะบอกเดี๋ยวนั้นเลย
Host: น้องอ่ำครับ ขออนุญาตหน่อยได้ไหมลูก มีอะไรอยากบอกคุณแม่เข้าไปบอกคุณแม่หน่อย
น้องอ่ำ: ขอให้แม่อยู่กับอ่ำนาน ๆ แล้วก็เป็นแม่ที่ดีของอ่ำต่อไปนะครับ
คุณแม่เดย์: โอเค (ยิ้ม...กอดกัน) กอดทั้งวันเลยเนี่ย เป็นเดย์ซะอีกนะที่กังวลไปเอง ด้วยภาพที่เขาโตขึ้นเยอะ ตอนเด็ก ๆ เรากอดกันทุกวัน แต่พอเขาโต เราก็เรียนรู้ ศึกษาไงว่าเด็กแต่ละวัยพอโตขึ้นขนาดแบบแม่ลูกจริง ๆ เขายังไม่ค่อยกอดกัน แต่กับเดย์แล้วมันเป็นอีกขึ้นหนึ่งที่คนเขาจะมองแล้วคิดอีกแบบหนึ่ง เพราะเขาก็เป็นหนุ่มแล้วด้วย ซึ่งเราจะระวังตรงนี้มากที่สุด
แต่สำหรับเรา เรารู้ไง ลูกเราถึงโตแต่ก็เป็นเด็กมาก ๆ เพราะอยู่โรงเรียนนั้นมันไม่ค่อยฟุ้งเท่าไหร่ แต่เพศสภาพอย่างเดย์ บางคนอยากเลี้ยงดูเด็กมาก ๆ แต่พอเจออะไรกระทบอย่างนึงแล้วมันทำให้ถอยออกมาเลย พอเลี้ยงเด็กผู้ชายโดนหาว่าเลี้ยงต้อย พอเลี้ยงเด็กผู้หญิงโดนมองว่าเปิดซ่อง แล้วจะให้เลี้ยงอะไรล่ะ เด็กกะเทยหรือก็หาว่าส่งเสริมเด็กในทางที่ผิดอีก ผิดทุกอย่างเลยงั้น เริ่มต้นมานี่คงผิดตั้งแต่แรกหรือ แต่จริง ๆ แล้วเราไม่ได้ผิด เรารู้ตัวเอง เราก็มักจะคิดไปเอง ดูข่าวอย่างทุกวันนี้สิ เราไม่ได้ไปซ้ำไปย่ำให้คนนึกถึง แต่เดย์เป็นคนอยู่กับความจริงเป็นหลัก
Host: ใช่ค่ะ พี่เดย์อาจดูเหมือนคนดุ แต่ที่พี่เดย์ทำมันเปี่ยมล้นไปด้วยความรัก ดูจากการกระทำที่พี่เดย์ทำให้กับน้องอ่ำตลอดมา
คุณแม่เดย์: เดย์ต้องเข้มแข็งและเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเดย์อยู่ในสังคมไม่ได้ เพราะถูกสังคมมองอย่างนี้มาตลอด เพราะฉะนั้น เราต้องเข้มแข็งแม้ในใจมันจะอะไรก็แล้วแต่ อย่างที่บอกค่ะ ลูกไม่เคยเห็นเดย์ร้องไห้ บางทีลูกก็บอก แม่ทำไมใจทมิฬหินชาติขนาดนี้ ไม่เคยเศร้าโศกาอาดูร
มีเรื่องหนึ่งที่เดย์ขำลูกตอนเด็ก ๆ ทำให้เรารู้เลยลูกคิดยังไง ตอนที่เขาเริ่มหัดเดินหัดพูดเป็นก็พาเขาไปเดินจตุจักร แล้วกะเทยเดินจตุจักรเป็นยังไงคือเดิน 3 รอบ ก้าวฉับ ๆ แล้วจูงเขาเดิน เราก็ไปกับเพื่อนด้วยนะ เราก็เพลินอยากได้โน่นอยากได้นี่ เดินวนไปร้านโน้นกลับมาร้านนี้ไปมา 2-3 รอบ อ่ำเขามองหน้าแม่แล้วบอกว่า “แม่...แม่เหนื่อยบ้างไหม แม่ไม่หิวน้ำบ้างหรือ” เขาไม่ได้พูดประชดนะ แล้วเราก็รู้ว่าลูกทั้งเหนื่อยทั้งหิวน้ำ แต่เขาไม่บอกนะว่าเหนื่อยว่าหิวน้ำ แต่เขาเป็นห่วงเราว่า ในเมื่อเขาเหนื่อยแล้วแม่ตัวใหญ่กว่าเขา แม่คงต้องเหนื่อยกว่า คือเตือนสติเราเลย เราก็คิดได้
โอ้ย!ทำบาปกับลูกมากเลย ขอโทษ ๆ นะลูก อะหิวน้ำกินน้ำนะ เดี๋ยวเดินตรงนี้เสร็จแล้วพอแล้วนะ เดย์ถึงบอกว่าบางเรื่องเขามีสเต็ปในการเติบโต ฉะนั้น เราไม่ห่วงตรงนั้นแล้ว มันเหมือนเขาซึมซับไปแล้วในส่วนที่เราเป็น แต่เราไม่อยากให้คนมองว่าพอเราเลี้ยงเขาแล้วจะเป็นตุ๊ดแบบเรา มันก็มีกังวลบ้าง แต่เราก็มั่นใจ เราถึงได้เลี้ยงให้เขาเป็นตัวของตัวเอง ส่งไปเรียนโรงเรียนประจำ ถ้าเขาจะเป็น มันเป็นที่ตัวเขา ไม่ได้เป็นที่ตัวเรา แต่สิ่งที่เราสอนให้เขาเป็นคือเป็นคนดี เข้มแข็ง ดูแลตัวเองได้ถ้าไม่มีเรา
Host: ขอบคุณพี่เดย์มากค่ะ วันนี้เราได้อะไรกันมากมาย
คุณแม่เดย์: มันคงไม่เหมือนคนอื่นนะ เราก็พยายามดูคนอื่นเขาเลี้ยงลูกกันอย่างไร เอาสิ่งที่ดีที่คิดว่าเหมาะกับเราเอามาใช้ เดย์ชื่นชมเขานะ ไม่งั้นเขาจะเป็นแม่ได้ไงล่ะ มันไม่ใช่ว่ากะเทยเห็นผู้หญิงแล้วจะเกลียดนะ เพียงแต่ถ้าบางคนทำในสิ่งที่เราชื่นชม ที่เราบูชาให้ถูกทอนค่าลงไปมันก็จะทำให้เราไม่สบายใจ คุณโชคดีแค่ไหนที่ได้เป็นแม่ แต่กับบางคนเขาพยายามขนาดไหนที่จะได้เป็นตรงนี้ คุณพร้อมที่จะเป็นแม่แต่ถ้าทำตัวไม่เป็นแม่ที่ดี เรารู้สึกเสียดายแทน
Host: พอพี่ได้โอกาสก็เลยทำมันอย่างเต็มที่ที่สุด
คุณแม่เดย์: ด้วยบริบทของเรา ทุนทรัพย์เรามีเท่านี้ ความเป็นอยู่ สภาวะแวดล้อมสังคมเราเป็นแบบนี้ แต่ลูกต้องดีที่สุด
Host: ไม่ได้ทำเพื่อตัวเองด้วยนะ แต่ทำเพื่อให้ลูกเป็นลูกที่ช่วยสร้างให้สังคมนี้ดีขึ้น
คุณแม่เดย์: ใช่ค่ะ ทำให้เขาเข้าใจ และเขาพูดแทนเราอย่างที่บอกไป เพราะเราจะไปพูดว่า ฉันดีอย่างโน้นอย่างนี้มันไม่ใช่ แต่เขาจะเป็นคนพูดเองว่า เราเป็นยังไง เขาจะต้องพูดตรงว่าเราไม่ดียังไง เราดีตรงไหน เขาชอบอะไร นั่นเป็นสิ่งที่เขาพูด แต่ถ้าเราพูดมันกลายเป็นเราบังคับให้เขาต้องพูดในสิ่งที่เราบอกว่าต้องพูด
Host: ที่นั่นฟังมาตรงนี้ ภูมิใจแทนน้องอ่ำนะ ภูมิใจที่มีแม่แบบนี้ ดีมาก ๆ เลยถึงแม่จะเป็นยังไง แต่หัวใจก็คือแม่
คุณแม่เดย์: เดย์ก็เพิ่งมาเป็นตอนมีเขานี่แหละ เพราะถ้าไม่มีเขา เดย์ก็ไม่รู้ว่าจะต้องเป็นยังไง แม่แต่ละคนจะมาเหมือนกันหมดไม่ได้ไง เราก็เป็นแม่ในแบบของเรา มันไม่ใช่ว่าเห็นคนอื่นเขาดีแล้วจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองเป็นแม่แบบนี้มันก็ไม่ใช่ เพราะครอบครัวเขาเป็นอีกแบบหนึ่งก็จะมาเลี้ยงลูกแบบเราไม่ได้ แต่เป้าหมายคือจุดเดียวกัน “ทำยังไงให้ลูกอยู่ในจุดที่ดีที่สุด”
Host: และก็ลูกเป็นคนดีของสังคม
คุณแม่เดย์: แค่นั้นเลย
ผู้ดำเนินรายการ: คุณแม่เดย์ ฟรีแมน อารยาอิสรีย์ เอกอุชุกร / สุรางคณา สุนทรพนาเวศ
บรรณาธิการ: นันทิญา จิตตโสภาวดี
กองบรรณาธิการ: นมิดา แพ่งสภา, ปัณณธร ใสแสง, รุจา สุขพัฒน์, นีรชา คัมภิรานนท์, สุสมา สุขพัฒน์
ศิลปกรรม: ฐานิสร์ ริ้วสุวรรณ, เอกชัย เธียรสรรชัย
นักออกแบบเสียง: ธัญธนวรัท ชนกชัด
ฝ่ายผลิต: ชลธิศ กรดี
ที่ปรึกษา: วันชัย บุญประชา, ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
OTHER
ท่ามกลางปัญหา สามารถสร้างเสริมปัญญาให้เด็ก ๆ ได้อย่างไร มาฟังตัวอย่างจากสถานการณ์จริง ในงานแถลงข่าวน่ารัก ๆ จากประเทศนอร์เวย์ ที่จัดขึ้นเพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามของเด็ก ๆ เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสชนิดนี้กัน
23 มีนาคม 2020
Mom Gen 2เด็กหลายคนประสบปัญหา "ค้นหาตัวเองไม่เจอ" ไม่รู้ว่าชอบอะไร ถนัดอะไร อยากทำอะไร หรือมีจุดอ่อน จุดแข็งในตัวเองอย่างไร ส่งผลให้หาเป้าหมายในชีวิตไม่เจอ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น? แล้วพ่อแม่สามารถปลูกฝัง "ทักษะการรู้จักตัวเอง" ให้ลูกได้อย่างไรบ้าง มาติดตามฟังกันค่ะ
20 กรกฎาคม 2020
Mom Gen 2คุยกับหมอไพ Podcast EP23 เมื่อหมอไทยไปสมัชชาองค์การอนามัยโลก
07 มิถุนายน 2024
คุยกับหมอไพ Podcast