Money and the Family EP.20 ออมเงินกินดอก ระวังโดนหลอกไม่รู้ตัว
Money and the Family EP.20 ออมเงินกินดอก ระวังโดนหลอกไม่รู้ตัว
แชร์ลูกโซ่คืออะไร
"แชร์ลูกโซ่" เป็นการหลอกลวงให้นำเงินไปลงทุน ทั้ง ๆ ที่ไม่มีการลงทุนจริง โดยการหลอกในแต่ละครั้งจะอ้างอิงถึงการลงทุนที่มีอยู่จริง เช่น ระดมทุนไปลงทุนในหุ้นต่างประเทศ คำที่พวกมิจฉาชีพจะใช้พูดหลอก เช่น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหรืออินโนเวชัน (Innovation) เงินดิจิทัล เช่น บิตคอยน์ (Bitcoin) รวมไปถึงเรื่องการลงทุนในธุรกิจ แล้วเดี๋ยวจะมีปันผลมาให้
ยิ่งปัจจุบันนี้ ด้วยเทคโนโลยีที่ไปไกล ทำให้คนกลุ่มนี้ทำเว็บไซต์ (website) หลอกลวงได้สมจริง มี username / password ให้เข้าไปตรวจสอบตัวเลขทางการเงินของเราได้ เมื่อเราไปเปิด เห็นตัวเลขการลงทุนโตขึ้น เลยยิ่งรู้สึกดี
แต่ทั้งนี้มักจะมีเงื่อนไขบางอย่างในการนำเงินออก เช่น ลงทุนไป 100,000 บาท เงินก็โตเร็วมากทุกสัปดาห์ ทุกเดือน แต่จะยังถอนไม่ได้ ต้องอยู่ให้ครบ 6 เดือนก่อนถึงจะถอนกำไรได้ ด้วยความที่เห็นตัวเลขทางการเงินโตเรื่อย ๆ เราก็ดีใจ เลยไม่คิดมาก แล้วก็ลงต่อเนื่องกันไป
จุดเด่น ของแชร์ลูกโซ่
1. มีการรับประกัน แชร์ลูกโซ่จะมีการรับประกันผลตอบแทนที่ชัดเจนว่าจะได้เท่านั้นเท่านี้ แต่ในความเป็นจริง การลงทุนไม่มีการรับประกัน เหมือนคำกล่าวที่ได้ยินกันบ่อย ๆ คือ “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาการลงทุนให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน” ความเสี่ยงไม่ได้แปลว่าโอกาสในการขาดทุน แต่แปลว่ามีความผันผวนสูงมาก คือ อาจได้กำไรเยอะในบางที หรืออาจขาดทุนหรือเสียเงินต้นไปเยอะในบางที เพราะฉะนั้น การรับประกันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ในการนำเสนอเรื่องการลงทุนใด ๆ ก็ตาม
2. มีการรับประกันด้วยตัวเลขที่สูงมาก การลงทุนจริง ๆ ที่เป็นลักษณะการเอาเงินไปฝาก ผลตอบแทนที่พอเป็นไปได้จะอยู่ที่ประมาณ 10% ต่อปี ดังนั้น ถ้าตัวเลขเกินไปไกล ต้องระมัดระวังไว้ มีโอกาสเป็นการลงทุนที่หลอกลวงสูงเลยทีเดียว
3. ไม่เน้นการลงทุนหลัก แต่เน้นชวนคนลงทุนเพิ่ม หรือชวนให้เราเปิดขาการลงทุนหลาย ๆ ขา เพื่อจะได้รับผลตอบแทนเพิ่ม ยิ่งเปิดเพิ่ม ยิ่งชวนเพื่อนมาก ยิ่งได้มาก จุดเด่นสำคัญคือต้องชวนคนเยอะ ๆ ถึงจะรวย ถึงจะได้เงินมาก ๆ แล้วเวลาที่มีการแย้งว่า “ทำไมเหมือนแชร์ลูกโซ่จัง” ก็จะมีการต่อว่า แดกดันว่า “เป็นเรื่องโง่ โลกไปถึงไหนแล้ว เขามีการลงทุนดี ๆ แบบนี้” ซึ่งต้องบอกว่า ถ้ามีการลงทุนที่ดีขนาดนั้นจริง ๆ คงไม่หลุดมาถึงเรา
ข้อแตกต่างของแชร์ลูกโซ่ในปัจจุบัน
ตอนนี้ใน Facebook, Twitter และ Instagram มีแฮชแท็ก (Hashtag / #) ที่กำลังได้รับความนิยม คือ #ออมเงินกินดอก หรือคำค้นหา บ้านเงินฝาก / บ้านเงินออม ซึ่งเป็นการชวนคนมาลงทุน มาออมเงิน โดยมีเงื่อนไข คือ
ออมเงินขั้นต่ำ 1,000 บาท ถ้าออมวันนี้ 1,000 บาท อีก 30 วันได้ 500 บาทเป็นดอกเบี้ย (ดอกเบี้ย 50% ต่อ 1 เดือน หรือ 30 วัน) ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดแปลกมาก เพราะจากที่บอกไปข้างต้น การลงทุนในรูปแบบนำเงินไปฝาก ผลตอบแทนที่พอเป็นไปได้จะอยู่ที่ประมาณ 10% ต่อปี
รูปแบบตรงนี้เป็นรูปแบบที่เหมือนเดิมแต่ที่แตกต่าง คือ คนทำแชร์ลูกโซ่ปัจจุบันเป็น “เด็ก”
ด้วยความที่เด็กอยากมีกำไรจากการลงทุน มีผลตอบแทนจากเงินเก็บของตัวเอง บางคนสำนึกดี คิดว่าลงทุนแล้วจะได้กำไรมาไว้ดูแลตัวเอง ซื้อของที่ตัวเองต้องการจะได้ไม่รบกวนพ่อแม่ จึงทำให้เข้ามาทำตรงนี้กันพอสมควรเพราะได้เงินง่าย ได้เงินเร็ว
ตอนนี้ไปถึงขั้นว่า ถ้าไม่มีเงิน 1,000 บาทมาลงทุนในทันที สามารถออมวันละ 10-20 บาทได้ แต่ดอกเบี้ยจะเริ่มจ่ายต่อเมื่อออมครบ 1,000 บาทเท่านั้น
นี่คือความน่ากลัวของความไม่รู้เรื่องทางการเงิน และความน่ากลัวของโซเชียลมีเดียที่ช่วยทำให้แชร์ลูกโซ่ไปได้เร็วกว่าปกติ
ยิ่งเด็กสมัยนี้มีมือถืออยู่กับตัว บางทีเพื่อนแชร์บอกกันมาก็ไปลงทุนกัน เพราะฉะนั้น พ่อแม่อาจต้องคอยดู คอยติดตามว่าลูกหลานเอาเงินไปลงทุนหรือไปออมกับการหลอกลวงแบบนี้หรือไม่ และถ้าบุตรหลานของท่านกลายเป็นคนเปิดวงแชร์ลูกโซ่เอง แบบนี้มีความผิดในเชิงอาญา มีโทษหนัก ฐานช่อโกงและหลอกลวงประชาชน ถ้าเปิดวงแชร์เกิน 10 คนขึ้นไปในวง
เคสตัวอย่าง
น้องสาวอายุ 21 ปี เปิดวงแชร์เป็นหนี้ประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินของคนอื่นที่ได้มาจากการเปิดวงแชร์ โดยใช้เวลาเพียง 4 เดือน มีลูกหนี้เป็นร้อยราย เข้าข่ายช่อโกง สุดท้ายเมื่อวงแชร์ล้ม ทำให้จ่ายคืนไม่ได้ เกิดการฟ้อง แจ้งความ สรุปเคสนี้ถึงขั้นเสียที่ดินของที่บ้าน ต้องนำมาขายเพื่อมาเคลียให้กับเจ้าหนี้หรือผู้ที่ลงแชร์แล้วไม่ได้เงินคืนตามสัญญา
เรื่องเหล่านี้เป็นภัยใกล้ตัวมาก ผสมผสานระหว่างความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ การไม่รู้จักเครื่องมือทางการเงินที่แท้จริง และการไม่มีความรู้ทางด้านการเงิน เวลาเห็นกรณีแชร์ลูกโซ่เกิดขึ้น บางคนจะตำหนิว่า นี่คือการโลภ แต่จริง ๆ แล้วในมุมหนึ่ง ความโลภจะเกิดได้ก็เกิดจากการที่คน ๆ นั้นไม่รู้จักและไม่เข้าใจการลงทุนจริง ๆ เลยไม่รู้ว่าการลงทุนจริงๆ ให้ผลตอบแทนได้ประมาณเท่าไหร่ อย่างไร ยิ่งโดยเฉพาะกับเด็ก ๆ จึงอยากฝากทุกคนในครอบครัวให้ช่วยกันติดตาม ดูแล เฝ้าสังเกตและตรวจสอบกันให้มาก ๆ โดยเฉพาะคนที่ให้ลูกใช้มือถือได้ตลอดเวลา อาจต้องชวนลูกมาพูดคุยกัน
ความรู้ด้านการเงินเป็นสิ่งที่สำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในยุคที่การสื่อสารแพร่กระจายได้รวดเร็วแบบนี้ หวังว่าปัญหาจะไม่เกิดขึ้นกับครอบครัวของท่าน
ผู้ดำเนินรายการ: จักรพงษ์ เมษพันธุ์
บรรณาธิการ: นันทิญา จิตตโสภาวดี
กองบรรณาธิการ: นมิดา แพ่งสภา, ปัณณธร ใสแสง, รุจา สุขพัฒน์, นีรชา คัมภิรานนท์, สุสมา สุขพัฒน์
ศิลปกรรม: ฐานิสร์ ริ้วสุวรรณ, เอกชัย เธียรสรรชัย
นักออกแบบเสียง: ธัญธนวรัท ชนกชัด
ฝ่ายผลิต: ชลธิศ กรดี
ที่ปรึกษา: วันชัย บุญประชา, ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
OTHER
คนเป็นพ่อแม่ บางครั้งก็มีความสุข ความชื่นใจจากลูก แต่ขณะเดียวกันก็อาจมีความทุกข์ ความเครียดจากลูกได้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อลูกเข้าสู่วัยรุ่น ยิ่งสื่อสารมากเท่าไร กลับยิ่งไม่เข้าใจกัน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น วิธีแก้ปัญหานี้สามารถทำได้อย่างไรบ้าง มาฟังคำแนะนำดี ๆ จาก หนังสือที่มีชื่อว่า “บำบัดเครียด” เขียนโดย จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ กันค่ะ
21 สิงหาคม 2020
On the Way HomeHealth Alert Podcast EP10 วิ่งบนสายพานในบ้านก็ฟิตได้
09 เมษายน 2024
Health Alert Podcastทำไม "ชื่อ" ถึงมีความสำคัญกับชีวิตคนเรา แล้วการตั้งชื่อเกี่ยวพันกับโหราศาสตร์อย่างไรบ้าง ติดตามได้ใน เม้าท์มอยสายมู EP.02
25 ตุลาคม 2020
เม้าท์มอยสายมูวัย 15-17 ปีนี้ ต้องเรียกว่า วัยรุ่นตอนกลาง อารมณ์ที่เคยพุ่งปรี๊ดเมื่อตอนวัยรุ่นตอนต้นก็จะเย็นลงมาหน่อย พ่อแม่จะช่วยลูกจัดการเรื่องอารมณ์ และดูแลในเรื่องอื่น ๆ ได้อย่างไรบ้าง ติดตามใน เรื่องลับเจ้าตัวเล็ก EP.42 รู้จัก รู้ใจลูกวัย 15-17 ปี
24 ธันวาคม 2020
เรื่องลับเจ้าตัวเล็ก