Open house Open world EP.09 ไขปริศนา ทำไมหญิง Gen Y เมินการมีลูก

21 กรกฎาคม 2021 44 ครั้ง

Open house Open world EP.09 ไขปริศนา ทำไมหญิง Gen Y เมินการมีลูก

ทำไมทุกวันนี้ ผู้หญิงเจน Y ถึงเลือกที่จะไม่มีลูกหรือมักจะมีลูกกันน้อย แล้วการมีลูกควรมีเมื่ออายุเท่าไรถึงจะเหมาะสมมากที่สุด หาคำตอบได้ใน Open house Open world EP.09 ไขปริศนา ทำไมหญิง Gen Y เมินการมีลูก

 

ในเชิงทฤษฎีนั้น ผู้หญิงสามารถมีลูกได้ตั้งแต่เริ่มมีประจำเดือนไปจนถึงวัยหมดประประจำเดือน ซึ่งอยู่ในช่วงอายุประมาณ 12-51 ปี แต่เมื่อมีอายุมากขึ้น ภาวะเจริญพันธุ์ก็จะลดลงไปตามธรรมชาติ ทำให้ตั้งครรภ์ได้ยากขึ้น

 

 

โดยผู้หญิงอย่างเรา ๆ จะเกิดมาพร้อมกับไข่ประมาณ 2 ล้านฟอง และจำนวนไข่จะค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ เมื่อมีอายุเพิ่มขึ้น เช่น จำนวนไข่ตอนอายุ 37 ปี จะอยู่ที่ประมาณ 25,000 ฟอง แต่พออายุ 51 ปี จำนวนไข่จะเหลือเพียง 1,000 ฟอง ซึ่งฟังจากจำนวนอาจจะรู้สึกว่าเยอะ แต่อย่าลืมว่าคุณภาพของไข่ก็ลดลงไปตามอายุด้วย

 

 

เรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวชเผยว่า ช่วงที่ดีที่สุดในการตั้งครรภ์สำหรับผู้หญิง คือ อายุ 20 ปลาย ๆ ถึง 30 ต้น ๆ เพราะเป็นช่วงอายุที่ส่งผลดีทั้งต่อคุณแม่และลูกในครรภ์ ซึ่งมีผลการศึกษาชิ้นหนึ่งระบุด้วยว่า อายุที่เหมาะแก่การมีลูกคนแรกมากที่สุดอยู่ที่ 30.5 ปี

 

 

เหตุที่เป็นเช่นนี้เป็นเพราะว่า ภาวะเจริญพันธุ์ของผู้หญิงจะเริ่มลดลงเรื่อย ๆ ตั้งแต่อายุ 32 ปี และจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงอายุ 35-45 ปี ซึ่งจากการศึกษาเปรียบเทียบความสามารถในการตั้งครรภ์ของผู้หญิง เมื่อไปเทียบกับผู้หญิงอายุ 30-31 ปี ก็จะพบว่า เมื่อมีอายุมากขึ้น โอกาสตั้งครรภ์ก็จะลดลงไปเรื่อย ๆ เช่น 34-35 ปี โอกาสในการตั้งครรภ์จะลดลง 14 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้ามีอายุ 40-41 ปี โอกาสตั้งครรภ์จะลดลงถึง 53 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

 

 

ผู้หญิงที่มีสุขภาพดีในวัย 30  โอกาสลุ้นเป็นคุณแม่จะอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์ในแต่ละเดือน แต่ถ้ามีอายุ 40 ปี โอกาสลุ้นเป็นคุณแม่จะลดน้อยลงไป เหลือแค่ไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์

 

 

ขณะที่อายุของฝ่ายชายก็มีความสำคัญด้วยเช่นกัน ถ้ามีอายุไม่เกิน 40 ปี ก็จะมีโอกาสเป็นคุณพ่อได้มากกว่า เพราะเมื่ออายุเกิน 40 ไปแล้ว สเปิร์มที่ผลิตออกมานอกจากจะมีความแข็งแรงน้อยกว่าในวัยหนุ่มแล้ว ความสามารถในการเคลื่อนที่ของสเปิร์มไปหาไข่ก็จะลดลงตามอายุไปด้วย

 

 

จริง ๆ แล้ว อายุก็เป็นแค่ปัจจัยหนึ่งเท่านั้นที่คู่แต่งงานจะตัดสินใจมีลูก เพราะยังมีปัจจัยอีกมากมายที่ต้องนำมาพิจารณากันด้วย ซึ่งขึ้นอยู่กับความพร้อมของคนสองคนว่าพร้อมจะมีลูกเมื่อไร แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า สาว ๆ ในเจเนอเรชั่น Millennials หรือเจน Y ที่มีอายุอยู่ระหว่าง 25-40 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่เหมาะแก่การมีลูกนั้น กลับมีแนวความคิดตรงกันข้ามกัน นั่นคือไม่อยากจะมีลูก หรือมีเพียงแค่ 1-2 คนเท่านั้น

 

 

เรื่องนี้ Forbes นิตยสารการเงินชื่อดัง รวบรวมผลสำรวจมาด้วยว่า ทำไมผู้หญิงเจน Y ถึงได้เมินการมีลูก ซึ่งจากการทำแบบสอบถามผู้หญิงนับพันคนจากความร่วมมือกันของ SoFi บริษัทด้านการเงินส่วนบุคคล กับ Modern Fertility บริษัทที่ผลิตอุปกรณ์เช็กความพร้อมก่อนตั้งครรภ์ พบว่า มีถึง 60 เปอร์เซ็นต์ที่ให้เหตุผลถึงการมีลูกช้าว่าเป็นเพราะมีเงินไม่พอสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลลูก

 

 

ส่วนอีก 51 เปอร์เซ็นต์บอกว่า พวกเธออยากจะมีเงินเดือนให้สูงกว่านี้ก่อน ซึ่งเรื่องเงินกลายเป็นเหตุผลอันดับต้น ๆ เพราะการมีลูกเท่ากับต้องแบกรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไปจนกว่าพวกเขาจะเรียนจบและหางานทำได้

 

 

ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยาวนานต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 2 ก็ทำให้สาว ๆ หลายคนรู้สึกกลัวว่าจะส่งผลต่อการเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลในช่วงที่ตนเองฝากครรภ์และก่อนคลอด โดยมีถึง 46 เปอร์เซ็นต์ที่กังวลในเรื่องนี้ และมี 61 เปอร์เซ็นต์ที่ยอมรับว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องพักแผนเรื่องการมีลูกเอาไว้ก่อน

 

 

นอกจากนี้ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความไม่พร้อมในการมีลูกของผู้หญิงเจน Y มีเหตุผลเรื่องอาชีพการงานเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะช่วงที่พวกเขาจบการศึกษามานั้นอยู่ในยุคที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้ต้องดิ้นรนเรื่องหน้าที่การงานมากเป็นพิเศษ

 

 

และอาชีพการงานที่ดูเหมือนจะไม่มั่นคง ก็สอดคล้องกับผลการสำรวจของ SoFi กับ Modern Fertility เพราะ  3 ใน 5 ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า พวกเธอยินดีที่จะรอให้มีตำแหน่งงานที่มั่นคงเสียก่อนจึงค่อยคิดเรื่องการมีครอบครัว

 

 

ความคิดแบบนี้ก็ถือว่ามีเหตุมีผลอยู่ไม่น้อย เพราะผลการศึกษาของมหาวิทยาลัย Princeton มีรายงานว่า หลังจากผู้หญิงมีลูก ศักยภาพในการหารายได้ของพวกเธอจะลดลงถึง 20 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียวเมื่อเทียบกับคู่ชีวิตของตนเอง และการมีลูกในแต่ละครั้งนั้น ก็ส่งผลให้ศักยภาพในการหารายได้ของคนเป็นแม่ลดลงไป 4 เปอร์เซ็นต์ด้วย

 

 

จะว่าไปการมีลูกให้ช้าลงอีกสักหน่อยก็ไม่ได้เสียหายอะไร ซึ่งมีผลการศึกษาหนึ่งที่พบว่า ถ้ามีลูกคนแรกตอนอายุ 33 ปี จะส่งผลดีให้คุณแม่มีอายุขัยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญด้วย โดยมีโอกาสที่จะมีอายุยืนยาวได้ถึง 95 ปีเลยทีเดียว

 

 

แต่ที่น่าสนใจมากกว่านั้นอยู่ตรงที่ลูกจะมีแนวโน้มเป็นเด็กที่มีสุขภาพจิตดี ไม่มีปัญหาด้านพฤติกรรมต่าง ๆ ด้วย เพราะการที่คุณแม่มีวุฒิภาวะในตอนที่มีลูกแล้ว ทำให้สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้ ไม่ดุว่าหรือตีลูกจนทำให้กลายเป็นเด็กมีปัญหา

 

 

นอกจากนี้ ก็ยังมีผลการศึกษาอีกชิ้นที่ชี้ให้เห็นด้วยว่า เด็กที่เกิดจากแม่ที่มีอายุมากกว่า มีแนวโน้มที่จะฉลาด ไอคิวสูง และทำคะแนนสอบได้ดีกว่าพี่น้องที่เกิดก่อน แต่ก็อย่าลืมว่า การมีลูกตอนอายุ 40 ปี โอกาสตั้งครรภ์ก็จะลดน้อยลงไปด้วย เว้นเสียแต่ดูแลสุขภาพของตนเองได้เป็นอย่างดี

 

 

เว็บไซต์ Healthline.com แนะนำว่า ถ้าอยากจะมีลูกและทำความฝันให้เป็นจริงก็ควรจะเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมก่อนจะมีลูก เริ่มตั้งแต่คุมน้ำหนักตัวให้ดัชนีมวลกายอยู่ระหว่าง 19-24 เพราะการมีน้ำหนักตัวมากหรือน้อยเกินไปจะส่งผลต่อความสามารถในการตกไข่ได้

 

 

รวมถึงต้องระมัดระวังเรื่องอาหารการกิน เพราะอาหารที่มีไขมันสูง นอกจากจะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มแล้วก็ยังไปขัดขวางวงจรการสืบพันธุ์ได้ด้วย และควรจำกัดการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เพราะมีงานวิจัยที่พบว่า คาเฟอีนไปเพิ่มความเสี่ยงในการแท้งได้ ขณะที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถ้าดื่มเป็นประจำก็จะทำให้คลอดช้ากว่ากำหนด และเป็นอันตรายต่อพัฒนาการของลูกในครรภ์ได้

 

 

 

ผู้ดำเนินรายการ:  นรกมล ดิษยบุตร

บรรณาธิการ:  นันทิญา จิตตโสภาวดี

กองบรรณาธิการ: นมิดา แพ่งสภา, ปัณณธร ใสแสง, รุจา สุขพัฒน์, นีรชา คัมภิรานนท์, สุสมา สุขพัฒน์

ถอดเทปเสียง: นรกมล ดิษยบุตร

ศิลปกรรม:  ฐานิสร์  ริ้วสุวรรณ, เอกชัย เธียรสรรชัย
นักออกแบบเสียง:  ธัญธนวรัท  ชนกชัด

ฝ่ายผลิต: ชลธิศ กรดี

ที่ปรึกษา:  วันชัย  บุญประชา, ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

สนับสนุนโดย  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

 

 

OTHER