ส่งต่อรักแบบแม่ EP.03 คุณแม่บุ๋ม (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี)
![](../img/objects/podcast-when-icon.png)
![](../img/objects/podcast-view-icon.png)
ส่งต่อรักแบบแม่ EP.03 คุณแม่บุ๋ม (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี)
Host: เวลาที่บุ๋มเจอปัญหาหนัก ๆ ลูกเป็นพลังอะไรให้บุ๋มได้บ้าง
คุณแม่บุ๋ม: เขาคือพลังงานบริสุทธิ์ที่เป็นแหล่งพลังงานขุมใหญ่ของบุ๋มมาก ๆ เลย คุณจะเห็นว่าบุ๋มเจอข่าวหนักหลายครั้งเป็นระลอก ๆ ในชีวิตของบุ๋ม แต่บุ๋มเดินเข้าบ้านปุ๊บไปด้วยอาการนึงนะ แล้วบุ๋มเรียกเขา เดินไปหาเขา “ขอกอดหน่อย” อันดาเขาจะรู้แล้วก็จะเดินหน้ามึน ๆ ของนางมา แล้วก็ยืนนิ่ง ๆ เพราะรู้ว่าบุ๋มจะกอดเขา
มีบางครั้งพอกอดปุ๊บมันเหมือนอะไรที่มันหนัก ๆ ที่เกาะหลังเรามามันถูกปลดปล่อย น้ำตาจะพรั่งพรูอะไรก็ตาม เขาก็จะยืนนิ่ง ๆ ของเขาให้เรากอด เราร้องไห้จนจบอะไรก็แล้ว ก็โอเคล้างหน้าเล่นกันต่อ หรือแม่กระทั่งตอนช่วงที่บุ๋มเลิกกับแฟน (คุณเอก) ก็ตาม เขาก็ไม่ถามสักคำว่าเกิดอะไรขึ้น แค่พูดกับเขาว่าอันดา...ถ้าแม่แยกทางกับคุณเอก หนูจะว่ายังไงบ้างลูก เพราะเราแคร์ลูกเรามาก เขาบอกว่า “ไม่เป็นไร เอาที่แม่ตัดสินใจ”
Host: แล้วตอนที่บุ๋มต้องเลิกกับพ่อเขา เขายังเด็กอยู่เลยนะ ตอนนั้นบุ๋มรู้สึกยังไงบ้างที่จากวันนั้นเราต้องดูแลอันดามันคนเดียวแล้ว เพราะอย่างที่บอกมา บุ๋มเป็นคนที่แพลนทุกอย่างในชีวิตไว้ แต่ก็คงไม่ได้แพลนหรอกว่าวันหนึ่งจะเลิกกับพ่อเขาถูกไหม
คุณแม่บุ๋ม: ใช่ค่ะ
Host: เพราะตอนนั้นเราก็ตั้งใจว่าเราอยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์ คงไม่มีผู้หญิงคนไหนหรอกที่ไม่อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่ ณ วันนั้น บุ๋มรู้สึกอย่างไร แล้วลูกให้อะไรกับบุ๋มบ้าง
คุณแม่บุ๋ม: ตอนนั้นอันดาแค่ 1 ขวบค่ะ มันมีเหตุผลหลายอย่างที่มองอนาคตอันดาแล้วคิดว่าต่างคนต่างเดินดีกว่า บอกตามตรงว่ามันก็มีหลายคำถามเกิดขึ้นนะคะว่าบุ๋มควรจะเลิกไหม บุ๋มเชื่อว่ามันไม่มีผู้หญิงคนไหนมั่นใจตัวเองจนขนาดว่าฉันต้องเลิก ฉันไม่สน มันไม่ใช่ภาพนั้น
หลาย ๆ คนเขียนข่าวเลยนะว่า บุ๋มเลิกเพราะทิฐิสูง โดยไม่รู้ความจริงเลยว่าสิ่งที่เลิกคืออะไร มันเป็นปัญหาครอบครัวบางอย่างมากกว่า ยังไงนั่นก็พ่อของลูก ซึ่งบุ๋มไม่ไปแตะอะไรเขาเลย แต่ขอแค่ต่างคนต่างเดินใช้ชีวิตของเราก็พอแล้ว บุ๋มไม่เคยห้ามลูกว่าห้ามเจอพ่อ เจอเมื่อไรก็ได้ถ้าหนูสบายใจ หนูจะไปบ้านนั้นเมื่อไรก็ได้ ให้เขายังมีความรักของพ่อและแม่อยู่เสมอ หนูมี 2 บ้านเลยนะ หนูอยากจะไปเจอเขา หนูก็ไป อยากจะอยู่กับแม่ หนูก็มา ไม่มีจำกัดเลย
Host: อยากจะย้อนกลับไปถามว่า ในวัยที่เขายังเด็ก บุ๋มมีความทรงจำอะไรที่ประทับใจระหว่างบุ๋มกับลูกบ้างไหม
คุณแม่บุ๋ม: เขาติดแม่มาก ติดแบบเหลือเชื่อ ติดแม้กระทั่งตั้งแต่เป็นเบบี๋แบบตายังไม่ลืมนะ ใครแยกจากอกบุ๋มไม่ได้เลย เขาคงได้ยินเสียงหัวใจเราเพราะอยู่ในท้องถึง 9 เดือน ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ลูกเมื่ออยู่บนอกแม่แล้วเขาจะสงบ เพราะเขาชินกับเสียงหัวใจตึก ๆ จังหวะของแต่ละคนเต้นไม่เหมือนกัน เขาชินกับเสียงหัวใจของบุ๋ม พอดึงออกไปร้องแง ๆ เข้าอกปุ๊บเงียบ หรือมีบางช่วงที่เขางอแงเป็นพิเศษหน่อย เราก็ไม่รู้จะทำยังไงก็นับ 1 2 3… เหมือนตอนที่ท้อง แล้วเขาก็เงียบมาก มันได้ผลจริง ๆ (หัวเราะ)
พอเขาโตมา เขาเป็นเด็กที่ไม่ฟุ้งเฟ้อค่ะ บุ๋มโชคดีมากเลย ทุกครั้งที่เขาเรียนหนังสือได้แต่ละเทอม เราจะให้ของขวัญเขา 1 ชิ้น อะไรก็ได้ บุ๋มตั้งไว้อย่างนี้ ถ้าเรียนดีนะอะไรก็ได้ เชื่อไหมคะตั้งแต่เด็กยันโต เด็กคนนี้ขอแค่ตุ๊กตาตัวเดียว มีเทอมที่แล้วเรียนได้ 3.66 ขอกล้องโพลารอยด์ และพอ 3.92 เทอมนี้เขาบอกอยากได้ ipad ใหม่ เพราะใช้ของเก่ามานานมากแล้ว แต่ยังไม่ต้องซื้อให้หนูนะ ตอนนี้หนูกำลังขึ้นม.3 แม่ซื้อให้ตอนหนูขึ้นม.4 นะ เราก็ถามว่าทำไม เขาบอกว่า ตอนนี้ยังใช้งานไม่เยอะมากเท่ากับม.4 เราก็บอกทำไมไม่เอาตอนนี้ละลูก เดี๋ยวม.4 ซื้อให้ใหม่ เขาบอกไม่เอา อันนี้ยังพอใช้ได้ เก็บเป็นรุ่นต่อไปเดี๋ยวมันคงออกรุ่นใหม่มา
Host: เขาคิดเป็นเนอะ อะไรที่ทำให้เขาเป็นเด็กแบบนี้ได้
คุณแม่บุ๋ม: งก (หัวเราะ) ไม่หรอก ล้อเล่น เขาเป็นเด็กที่เห็นแม่ลำบาก ไปญี่ปุ่นกันนะคะเอาอะไรก็ได้ 1 ชิ้นลูก ไปร้านเลโก้เลย ถ้าเกิดเขาจะลากกล่องใหญ่ออกมา บุ๋มก็จ่ายนะ ขอแค่เทอมละหนเพราะของขวัญบุ๋มไม่ได้ซื้อให้บ่อยเลย กลับกลายเป็นว่าเขาเดินทั่วร้านอยู่ประมาณ 5 นาที แล้วเขาเดินออกมา ไม่หยิบอะไรมาเลยสักกล่อง เขาบอกว่าไม่อยากได้
Host: แล้วมีอะไรที่เขาอยากได้แล้วเดินมาขอเองบ้างไหม
คุณแม่บุ๋ม: มีค่ะ ขอกระดาษ กระดาษโอริกามิที่พับแบบของญี่ปุ่น แม่ก็ปวดหัวตึ้บ ดีนะที่เดี๋ยวนี้มีชอปปิงออนไลน์ช่วยชีวิตได้เยอะเลย ขอแค่นี้เองไม่ได้อะไรมากมายเลย
เวลาผู้หญิงคนหนึ่งท้องมันเหนื่อยมากนะ มันจะมีการเต้นของหัวใจผิดปกติ ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงหรืออะไรก็ตาม แต่บุ๋มต้องออกจากบ้านตั้งแต่ตี 4 เพื่อไปถ่ายรายการเช้า ขับรถไปเอง มันเหนื่อยมาก เหนื่อยแทบขาดใจ ไหนจะต้องลงพื้นที่ไปถ่ายรายการทีวีทั้ง ๆ ที่ท้องใหญ่มากแล้ว 7 เดือนแล้ว ตอนนั้นเกือบจะขึ้นเครื่องบินไม่ได้แล้ว เลยกลายเป็นว่าทุกครั้งที่เราทำงาน คงเหมือนผู้ชายสักคนแหละ ที่คิดว่าเมื่อเราแต่งงานแล้ว เราขยันขึ้น เราต้องรับผิดชอบอะไรที่อยู่ข้างหลัง ที่ทำให้เราต้องเข้มแข็งขึ้น
แม่ก็เหมือนกันที่จะต้องรับผิดชอบชีวิต ฉันจะต้องเข้มแข็ง จะต้องขยัน เพื่อให้ลูกในท้องได้มีชีวิต ได้มีกินต่อไป ดังนั้น มันก็เลยกลายเป็นเวลาที่เจอปัญหาอะไรมามากมายก็ตาม แต่พอเห็นตาดำ ๆ มันเป็นอะไรที่บอกว่า “ฉันท้อไม่ได้” ตาดำ ๆ ที่มองฉันปริบ ๆ ตรงนี้ มันจะเดินยังไง มันจะเป็นยังไง จะใช้ชีวิตอย่างไร ถ้าฉันถอยฉันล้ม ฉันยังต้องแกร่ง ยังต้องอยู่ ยังต้องรับผิดชอบ ยังต้องทำงาน มันเป็นระบบความคิดที่เกิดขึ้น
จนบางทีแม่หลาย ๆ คนอาจจะต้องทำงานหนัก สู้งานหนัก แล้วเครียด หันมาตีลูก ซึ่งบุ๋มเคยเห็นหลายครอบครัวทำแบบนั้นนะ สงสารทั้งแม่ทั้งลูก มันก็เลยกลายเป็นว่า หลาย ๆ คนบอกว่า พอโตขึ้นจะเลี้ยงแม่ให้ดีที่สุด บุ๋มเองก็เช่นเดียวกัน ตอนเด็ก ๆ มาจากครอบครัวที่ยากจน อยู่ในห้องแฟลตเล็ก ๆ มีกัน 8 ชีวิตในนั้น เพราะน้องแม่เยอะ บุ๋มก็เลยมีแรงบันดาลใจว่า ฉันต้องมีบ้านหลังใหญ่เพื่อเลี้ยงดูครอบครัวทุกคนให้ได้
วันนี้บุ๋มมีบ้าน 15 ห้องนอน มันเป็นความบ้าอยากพิสูจน์ให้เห็น แต่ผลปรากฏว่า โตกันหมดแล้ว เหลือกัน 4 คนในบ้าน มีบุ๋ม พี่สาว อันดา และแม่ เดินกันเหงาเชียว (หัวเราะ)
คุณแม่ทุกคนนะคะ ไม่ว่าเกิดปัญหาอะไรในชีวิตก็ตาม ให้มองตาลูกเข้าไว้ แล้วคุณจะมีพลังที่พูดไม่ถูก บอกไม่ได้ มันจะเป็นแรงพลังผลักดันแม่ให้เดินต่อไปอย่างยิ่งใหญ่ เป็นความรักที่ยิ่งใหญ่มากค่ะ กอดลูกไว้แน่น
Host: ในอีกมุมหนึ่ง เราเคยมีความกลัวหรือเป็นห่วงบ้างไหม อย่างที่บุ๋มเคยบอกว่าจะตายวันไหนก็ไม่รู้ ยิ่งเราทำงานแบบนี้ไม่รู้จะไปเหยียบเท้าใครขาใคร หรือจะมีเหตุอะไร บุ๋มเคยกลัวไหมว่าแล้วอันดาจะเป็นอย่างไร จะอยู่ต่อไปอย่างไร
คุณแม่บุ๋ม: กลัวแน่นอน เพราะเขาคือความรักที่ยิ่งใหญ่ของบุ๋มนะ แต่เพราะความกลัวนี่แหละเลยทำให้บุ๋มต้องกล้าที่จะออกมาปกป้องเขา บุ๋มบอกตามตรงว่า การช่วยเหลือผู้หญิงหนึ่งคนออกจากซ่องหรืออะไรก็ตาม เราก็จะมีศัตรูเพิ่มอีกหนึ่งคน การช่วยผู้หญิงที่ถูกข่มขืนหนึ่งคน เราก็จะมีผู้ร้ายที่เกลียดเราอีกหนึ่งคน
การที่บุ๋มลงไปช่วยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สร้างโรงเรียนขึ้นมา บุ๋มถูกผู้ก่อการร้ายวางคาร์บอม บุ๋มโดนจดหมายขู่ว่าจะลักพาตัวลูก ช่วงนั้นบุ๋มถึงต้องอยู่กับเขาแยกกันคนละที่ ใจจะขาดเพราะเราไม่ได้อยู่ใกล้ลูก โชคดีที่เขาเข้าใจ โชคดีที่เขารู้ว่าแม่ทำเพื่ออะไร
บุ๋มจะหยุดการช่วยเหลือสังคมแล้วมาเพื่ออยู่กับเขา มันก็ทำไม่ได้ บุ๋มเป็นพวกที่ทนไม่ได้เมื่อเห็นคนถูกรังแก ดังนั้นก็คุยกับลูกบ่อยมากว่า หนูต้องทำใจนะ ต้องเข้าใจแม่นะ เพราะนั่นก็คือความสุขของแม่อีกอย่างเหมือนกันที่ได้ช่วยคนอื่น
ดังนั้นเขาก็เลยเข้มแข็งในแบบของเขาที่พอจะทำได้ มันเป็นเพราะว่าเรารักเขาค่ะ เราถึงต้องเป็นแม่ที่ดีเป็นแบบอย่าง เป็นแม่ที่ยิ่งใหญ่ให้กับเขา คำเดียวเลยที่บุ๋มอยากเป็นที่ทำให้บุ๋มทำทุกสิ่งทุกอย่างได้มากมายขนาดนี้ คือ “เป็นแม่ที่เขาภูมิใจ”
Host: น่ารักมากเลย แล้วอันดาทำให้บุ๋มภูมิใจมาก ๆ บ้างไหม
คุณแม่บุ๋ม: เยอะมากเลย เวลาไปโรงเรียนหรือไปไหนก็ตามแล้วคนอื่นพูดว่า อันดาเป็นเด็กน่ารักมาก อ่อนน้อมมาก ตั้งใจเรียนมาก อะไรอย่างนี้ นั่นแหละเราภูมิใจแล้ว ขอแค่นี้แหละ ให้เขามีความสุข จริง ๆ นะ ความภูมิใจของบุ๋มคือการเห็นลูกมีความสุขและเป็นที่รักของคนอื่น ๆ แค่นั้นเอง
Host: บุ๋มเคยมีความปรารถนาอะไรลึก ๆ ที่คิดไว้ว่าอยากให้ลูกได้รับบ้างไหม
คุณแม่บุ๋ม: อยากให้เขาได้รับความเมตตาจากคนรอบข้างค่ะ
Host: เหมือนบุ๋มนะก็ได้รับความเมตตาจากทุกคน ประชาชนทั้งประเทศ
คุณแม่บุ๋ม: เพราะบุ๋มคิดว่าความเมตตาเป็นแขนงของความรักอีกแบบหนึ่งที่ต่อให้ไม่รู้จักกัน ต่อให้ไม่ใช่ญาติกัน แต่ถ้าเราเมตตาและเขาได้รับความเมตตา บุ๋มคิดว่าอยู่ที่ไหนก็มีความสุข เดินไปตรงไหนก็ได้ บุ๋มอยากให้เขาได้รับความเมตตาจากคนทุกคนรอบข้าง ไปไหนเขาก็จะปลอดภัย นี่แหละสิ่งที่บุ๋มอยากให้เขาได้รับจากคนทั่วไป
Host: ถ้าสมมุติว่าบุ๋มขอพรได้สัก 1 ข้อ ขออะไรก็ได้ให้ลูก บุ๋มอยากให้อะไร
คุณแม่บุ๋ม: ถ้าขอได้นะ ขอให้พระพุทธเจ้านำทางให้เขาได้เจอแต่สิ่งที่ดี เจอคนที่ดี เจอแนวทางที่ดี เพื่อให้เขาได้ทำความดีต่อไป ขอแค่นี้เอง
Host: สาธุ สาธุ สาธุ
คุณแม่บุ๋ม: ณ ตอนนี้ บุ๋มพยายามหาอะไรหลาย ๆ อย่างให้เขาลองทำ ไปทำเทสแบบทดสอบมา เขาก็ทำได้หลาย ๆ อย่าง คือบุ๋มจะบอกเขาว่า ดาราอย่างแม่ แก่ ๆ ทำไม่ได้นะ เขาเองก็เคยเขียนว่ามีอาชีพไหนบ้างที่ทำได้ถึงแก่ (หัวเราะ)
จนกระทั่งมาถึงโปรเจกต์ COVID นี่แหละค่ะ ที่ทำให้เขาเห็น เพราะบุ๋มพาเขาไปแจกของ ไปลงพื้นที่ด้วย ก็เลยบอกเขาว่า “เห็นไหม...หมอเกษียณแล้วก็ยังต้องลงมาช่วย ความเป็นหมอไม่เคยหายไปจากชีวิต จะถูกเรียกว่าคุณหมอตลอดชีวิต และเป็นผู้ให้ตลอด เป็นอาชีพที่มีบุญนะลูก” เขาก็เลยอยากเป็นหมอ
ตอนนี้เขาก็เลยเริ่มจากให้น้ำเกลือหมาก่อน (หัวเราะ) เพราะหมาเป็นไตวาย ก็เลยฝึกเขาให้ให้น้ำเกลือใต้ผิวหนังอะไรอย่างนี้ก่อน ก็ฝึกให้เขาเริ่มชิน แต่เขาบอกว่าไม่อยากฉีดยาหมาเลย หมามันเจ็บ อ้าวแล้วไม่กลัวฉีดคนหรือ (หัวเราะ)
Host: เขารักสัตว์นะเห็นถามถึงหมาบ่อย
คุณแม่บุ๋ม: ใช่ อย่างกอด ๆ กับแม่อยู่เห็นหมาเดินมา เขาก็ไปหาหมาก่อน นางรักสัตว์ค่ะ
วันนี้บุ๋มโชคดีที่ประชาชนรู้จัก บุ๋มโชคดีที่มีลูกที่น่ารัก บุ๋มโชคดีที่มีโอกาสได้เรียนรู้และได้ลงไปช่วยเหลือปัญหาสังคมเยอะแยะมากมาย ดังนั้น เป้าหมายของการเป็นแม่ของบุ๋มต่อไปก็คือ เป็นแม่ที่มีพลังบวกและส่งพลังนั้นไปให้แม่คนอื่น ๆ ต่อไป
โชคดีมากที่วันก่อนบุ๋มเจอท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ท่านบอกว่า อยากให้บุ๋มไปช่วยให้กำลังใจแม่เลี้ยงเดี่ยวทั่วประเทศ
Host: เป็นโปรเจกต์ที่ดีมาก เอาความรู้สึกจริง ๆ ถ้าวันที่ไม่มีเขา
คุณแม่บุ๋ม: แค่นึกก็รู้เลยว่า บุ๋มต้องอยู่ยากแน่นอน ชีวิตมันคงต้องแตกเป็นเสี่ยง ๆ แต่ถามว่าอยู่ไม่ได้เลย มันก็คงไม่ใช่ มันก็ยังคงต้องมีชีวิตอยู่ เพราะฉันยังมีแม่อยู่ที่ต้องเลี้ยงดู มันก็ยังต้องอยู่แต่อยู่ด้วยสภาพยังไง มันก็คงอีกเรื่องหนึ่ง
แต่บุ๋มคงอยู่ด้วยสภาพแบบใจสลายแบบเป็นเสี่ยง ๆ อยู่ข้างใน มันเหมือนครึ่งหนึ่งของชีวิตที่มันหายไป มันคงโหวง ๆ ถ้าวินาทีแรกที่รู้คือขอตายก่อนดีกว่า ถ้าขอได้นะ ขอตายก่อนเขา บุ๋มคงอยู่ยากมากถ้าไม่มีเขา
Host: อยากให้อันดาได้รับรู้ว่าเขาสำคัญกับแม่ขนาดไหน
คุณแม่บุ๋ม: เขาเป็นแหล่งพลังงานชีวิตของบุ๋มเลยนะ ที่บุ๋มทำสิ่งยิ่งใหญ่ได้มากขนาดนี้ ทำเพื่อผู้หญิง ทำเพื่อประเทศได้มากขนาดนี้ มาจากร่างกายน้อย ๆ ของเขาเลย ถ้าถามว่า บุ๋มรักเขามากขนาดไหน มันพูดไม่ได้เลย ความรักตรงนี้มันยิ่งใหญ่กว่าความรักอีกนะ เขาคือแรงผลักดัน คือแรงบันดาลใจ คือเป้าหมายในข้างหน้า
เขาคือคนที่ทำให้บุ๋มรู้สึกว่า คำติฉินนินทาอะไรต่าง ๆ มันกระจอกไปเลยเมื่อเราอยากเป็นแม่ที่เขาภูมิใจ มันเลยกลายเป็นว่าทุกวันนี้ “ขอแค่มีเขา ปนัดดาจะทำได้ทุกอย่างบนโลกเลย ฉันจะทำได้ทุกอย่างบนโลกแค่มีเขาอยู่ตรงนี้”
อะไรก็ได้บนโลกมันกระจอกไปเลยกับการที่แค่ได้กลับมากอดเขา และบอกว่าวันนี้แม่ทำอะไรเพื่อเขาบ้าง แม่ทำอะไรเพื่อให้วันหนึ่ง วันที่ไม่มีแม่อยู่ ให้เขาจำแม่ในรูปแบบไหนบ้าง ขอแค่นั้นเอง
Host: ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ แล้วก็อยากให้แม่ทุกคนได้ฟังสิ่งนี้ ได้รับสัมผัสนี้ ได้รับพลังรักที่บุ๋มมีต่อลูกแบบนี้ และขอให้เขารักลูกเขาแบบนี้ได้เหมือนกัน
ผู้ดำเนินรายการ: คุณแม่บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี / สุรางคณา สุนทรพนาเวศ
บรรณาธิการ: นันทิญา จิตตโสภาวดี
กองบรรณาธิการ: นมิดา แพ่งสภา, ปัณณธร ใสแสง, รุจา สุขพัฒน์, นีรชา คัมภิรานนท์, สุสมา สุขพัฒน์
ศิลปกรรม: ฐานิสร์ ริ้วสุวรรณ, เอกชัย เธียรสรรชัย
นักออกแบบเสียง: ธัญธนวรัท ชนกชัด
ฝ่ายผลิต: ชลธิศ กรดี
ที่ปรึกษา: วันชัย บุญประชา, ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
OTHER
จะทำความสะอาดเพื่อกำจัดเชื้อโควิด-19 ต้องดูวิธีการด้วยนะ
20 เมษายน 2020
สารคดี เราจะสู้ไปด้วยกันในวันที่ “น้องโซเฟีย - พัชรพร สโมสร” ตัดสินใจเรียนสาขาวิชานิเทศศาสตร์ วิชาเอกลูกค้าสัมพันธ์ เธอยังไม่รู้ว่าเธอจะประกอบวิชาชีพอะไร เธอรู้แต่ว่า เธอจะปล่อยให้ความรักและความสนใจ ณ เวลานั้น ๆ พาเธอไป สำหรับคนอื่นนี่อาจฟังดูคงเหมือนเธอไม่มีเป้าหมายในชีวิต แต่แท้ที่จริงแล้ว นั่นคือเป้าหมายในชีวิตของเธอ “Take chances + do with love + make mistakes” สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอเติบโตในแวดวงการใช้เสียงมาถึง 7 ปีเต็ม เรื่องราวชีวิตของเธอจะสนุกสนานและน่าสนใจอย่างไรบ้าง ติดตามใน Walk the Talk EP.18 Making mistakes is how I grow. ลองผิดพลาดจึงเติบโต
08 ธันวาคม 2020
Walk the Talk season 2"ครอบครัวพลังบวก" สร้างได้ ต้องใช้เทคนิคอย่างไรบ้าง ติดตามได้ใน Mom Gen 2 EP.30 ครอบครัวพลังบวกสร้างได้
14 กันยายน 2020
Mom Gen 2หัวใจฟูรอบรู้สู้ NCDs รู้ยังวัยรุ่น EP 14 วัยรุ่นก็เครียดเป็น
08 สิงหาคม 2023
รู้ยังวัยรุ่น